งานของตัวเอง เพิ่งมีเวลาว่างมานั่งเขียนถึง เพราะจัดงานเมื่อวันจันทร์ (9 ก.ย.) หลังจากนั้นได้พัก 1 วัน แล้วก็ต้องมาชดใช้กรรมงานที่คั่งค้างอยู่ ดองเอาไว้ก่อนเพื่อมาจัดงานอีเวนต์
ปีนี้ถือเป็นปีที่สองของ Blognone Tomorrow โดยยังคงสถานที่เป็น Bitec เหมือนเดิม (ที่รถไฟฟ้า BTS เข้าถึงแล้ว แต่คนก็ยังรู้สึกว่าไกล) แต่ย้ายฮอลล์จาก Grand Hall มายัง ภิรัชฮอลล์ ฝั่งที่ติดกับทางเชื่อมรถไฟฟ้าเลย และเพิ่มจำนวน track จากเดิม 2 ห้องมาเป็น 3 ห้อง
จำนวน speaker ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 28 คน และมีเซสชันที่เป็น panel discussion มากขึ้น คิดว่าในแง่ความหลากหลายของเนื้อหาก็เพิ่มตามมาด้วย รายชื่อ speaker ทั้งหมดดูได้ตามลิงก์
www.blognone.com ปีนี้มี big name speaker ของคนไทยมาร่วมหลายคน ที่ตั้งใจเชิญเป็นพิเศษคือ คุณสมโภชน์ อาหุนัย จาก EA ที่มาเล่าเรื่องแผนการใหญ่ของรถพลังงานไฟฟ้าในไทย
ใครที่ไม่ได้ไปงาน มีทั้งบทความสรุปและไฟล์เสียงให้ฟังกัน
Brand Inside 
Brand Inside และเซสชันปิดที่เป็นที่กล่าวถึงกันมากหน่อยคือ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มาพูดเรื่อง Hyperloop กับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย
หรือถ้าอยากดูแบบเต็มๆ มีคลิปแล้ว
ทางทีมงานของคุณธนาธรเองก็เอาไปโพสต์ด้วย
"การพัฒนาอุตสาหกรรมมี 3 แบบ คือ
1) การเป็นผู้เดินตามทาง 2) เป็นผู้สร้างทาง
และ 3) เป็นผู้ก้าวกระโดดข้ามทาง
แบบแรกทำง่าย แต่เราจะเป็นผู้ตามตลอดไป อีก 2 แบบทำยากกว่า แต่จะเป็นหนทางให้เรากลายเป็น ผู้นำ ผู้บุกเบิก" #blognonetomorrow pic.twitter.com/MICZAoAW9f— Thanathorn Juangroongruangkit (@Thanathorn_FWP) September 9, 2019
ส่วนผมแทบไม่มีบทบาทอะไรในวันงานมากนัก (เรามอบหมายงาน operation ให้น้องๆ ไปแล้วก็ถือว่าเชื่อใจกัน) มีแค่การพูดเปิดงาน กับการเป็น moderator เพียง 2 เซสชัน (คุณสมโภชน์ กับ Practical Data ที่มี Wisesight/UOB เป็นแขก)
ตัว opening remark เพิ่งคิดได้ตอน 3 ทุ่มในคืนก่อนวันงาน ตอนแรกบอกทีมเวทีไปแล้วว่าจะไม่มีสไลด์ แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนใจ
www.blognone.com ต้องขอบคุณพี่ตูน Sutirapan ที่ชอบเรื่องนี้ และทำให้มีแรงฮึดเขียนเป็นบทความออกมาด้วยครับ
สรุปยอดตัวเลขผู้เข้างานปีนี้ประมาณ 1 พันคนนิดๆ (ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 1,088 คน) โดยรวมถือว่าน่าพอใจสำหรับตัวผู้จัด
การจัดงานเป็นปีที่สองทำให้มีประสบการณ์ในการจัดงานอีเวนต์มากขึ้นกว่าเดิม ปิดจุดอ่อนเดิมๆ ที่เรียนรู้มาจากงานปีก่อนลงได้เยอะ แม้จะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างในหลายจุด (เช่น การควบคุมเวลาที่ยังทำได้ไม่ดี) ก็ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกคน speaker และ sponsor ทุกท่าน และสต๊าฟที่เข้ามาช่วยจัดงานนี้ไว้ด้วยครับ
เจอกันใหม่ปีหน้า
